นครบาลลุยกทม.ต้นแบบสวมกันน็อก 100% หวังลดตาย-เจ็บ ดีเดย์หลังปีใหม่!

บช.น.เปิดโครงการ “กรุงเทพมหานคร เมืองต้นแบบสวมหมวกนิรภัย 100 เปอร์เซ็นต์” เพราะห่วงใยตำรวจให้ยืม หวังลดการสูญเสีย เริ่มรณรงค์ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 28 ธ.ค. ก่อนตรวจจับจริงจังต้นปี 2561

 

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 ธ.ค.60 ชั้น 1 ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ถนนวิภาวดีรังสิต พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “กรุงเทพมหานคร เมืองต้นแบบสวมหมวกนิรภัย 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะห่วงใยตำรวจให้ยืม Saving all lives for Thai people Opening up Bangkok) โดยมีพล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช. พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ ผบก.จร. พ.ต.อ.อาคม จันทนลาช รอง ผบก.จร. ร่วมกันรับมอบหมวกนิรภัยจากภาคเอกชน ภาคีเครือข่าย และประชาชนที่ให้การสนับสนุนหมวกนิรภัยตามโครงการ เพื่อแจกจ่ายให้ บก.น.1-9 และ บก.จร. นำไปใช้รณรงค์ตามโครงการนี้ ซึ่งจะเป็นการให้ผู้กระทำผิด (ข้อหาไม่สวมหมวกนิรภัย) ยืมหมวกนิรภัยเพื่อสวมใส่ในขณะขับขี่ทุกครั้ง เพื่อลดการสูญเสียชีวิต ลดการบาดเจ็บ ลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุทางถนนอันเกิดจากการใช้รถจักรยานยนต์และทำให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองต้นแบบสวมหมวกนิรภัย 100%

 

พล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อรณรงค์ส่งเสริมและสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถจักรยานยนต์ในเขตกรุงเทพมหานคร ให้ตระหนักถึงความปลอดภัย มีวินัยด้านการจราจร ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัดและเกิดความร่วมมือในการสวมหมวกนิรภัยขณะขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ทุกครั้ง เพื่อลดการสูญเสียชีวิต ลดการบาดเจ็บ ลดความรุนแรง จากอุบัติเหตุทางถนนอันเกิดจากการใช้รถจักรยานยนต์ และทำให้ กรุงเทพมหานคร เป็นเมืองต้นแบบสวมหมวกนิรภัย 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งที่ผ่านมาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สวมหมวกนิรภัยคิดเป็นร้อยละ 75 สำหรับการตั้งด่านจะมีผลต่อการรณรงค์ให้ประชาชนสวมหมวกนิรภัยหรือไม่นั้น ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปฏิบัติหน้าที่บังคับใช้กฎหมายอยู่แล้ว ปัญหาที่เกิดเมื่อมีการตั้งด่านพร้อมกันทุกสถานีจะส่งผลให้การจราจรติดขัด ช่วงนี้จึงเป็นการจับกุมผู้กระทำความผิดจอดในที่ห้ามจอด ขับรถฝ่าไฟแดง ไม่สวมหมวกกันน็อก ฝ่าฝืนเส้นห้าม เพราะต้องการคืนพื้นผิวให้การจราจร และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ไม่สวมหมวกนิรภัยก็จะให้ยืมหมวกนิรภัย เพื่อสร้างวินัยและความปลอดภัยให้กับตัวผู้ขับขี่เอง ซึ่งจะเริ่มรณรงค์ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 28 ธ.ค. และจะมีการตรวจจับอย่างจริงจังในต้นปี 2561 นี้

 

ด้าน พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ กล่าวว่า การดำเนินการแบ่งออกเป็นขั้นตอน ดังนี้

 

1. เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ในสังกัด บก.น. 1-9 และ บก.จร. ซึ่งพบเห็นผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารที่ไม่สวมหมวกนิรภัย จะดำเนินการตามกฎหมายโดยการออกใบสั่งจราจรในข้อหา “ไม่สวมหมวกนิรภัยในขณะขับขี่รถจักรยานยนต์” หรือ ข้อหา “เป็นผู้ขับขี่ยินยอมให้ผู้โดยสารไม่สวมหมวกนิรภัยในขณะโดยสารรถจักรยานยนต์” ตามมาตรา 122 แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 (แล้วแต่กรณี) โดยจะไม่อนุญาตให้ผู้ขับขี่หรือผู้โดยสาร ขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ต่อไปอย่างผิดกฎหมายอีก จนกว่าผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารจะสวมหมวกนิรภัยและปฏิบัติตามกฎหมายที่มีอยู่อย่างครบถ้วน

 

2. เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรที่พบการกระทำผิด อธิบายให้ผู้กระทำผิดทราบและมีความรู้ความเข้าใจในบทบัญญัติของกฎหมายว่า “การขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ทุกครั้งจะต้องสวมหมวกนิรภัย” พร้อมทั้งแนะนำโทษภัยของความรุนแรงเมื่อเกิดอุบัติเหตุทางถนนจากการใช้รถจักรยานยนต์แล้วไม่สวมหมวกนิรภัย และหลังการจับกุม หากผู้กระทำผิดไม่สามารถจัดหาหมวกนิรภัยมาสวมใส่ได้ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้จับกุมแนะนำให้ผู้กระทำผิดไปยืมหมวกนิรภัยที่ได้รับสนับสนุนตามโครงการนี้ ซึ่งจะมีให้บริการอยู่ที่สถานีตำรวจต่างๆ เพื่อสวมใส่ในขณะขับขี่ทุกครั้ง แล้วแจ้งแก่ผู้กระทำผิดด้วยว่าให้นำหมวกนิรภัยมาคืนสถานีตำรวจที่ให้ยืมภายใน 7 วันนับจากวันที่ได้รับใบสั่งจราจร

 

3. เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ที่พบการกระทำผิด ใช้คลิป “กองบังคับการตำรวจจราจร” ของงานอบรมผู้กระทำความผิด กก.3 บก.จร. เป็นสื่ออบรมให้ความรู้แก่ผู้กระทำผิดเกิดความตระหนักในความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น ด้วยวิธีการสแกนคิวอาร์โค้ดผ่านแอปพลิเคชันไลน์

 

4. การสอบสวนเปรียบเทียบปรับ ให้พนักงานสอบสวนพิจารณาทำการเปรียบเทียบปรับในอัตราสูงสุดตามที่กฎหมายกำหนด พร้อมทั้งอธิบายและให้ความรู้ถึงโทษภัยของความเสี่ยงจากการละเลยไม่สวมหมวกนิรภัย และความรุนแรง ความสูญเสียที่ตามมาเมื่อเกิดอุบัติเหตุทางถนน

 

อย่างไรก็ตามตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 28 ธ.ค. ถึงจะเป็นช่วงรณรงค์ก็ตามทางเจ้าหน้าที่ก็จะยังเข้มงวดในการกวดขันวินัยจราจรอยู่ตลอด ส่วนการตรวจจับก็ให้เป็นดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน

Share:

Share on facebook
Facebook
สถานีตำรวจนครบาลเตาปูน

สถานีตำรวจนครบาลเตาปูน

On Key

Related Posts